The End of the World

The End of the World (วันสิ้นโลก | 終焉の世界)

The End of the World (วันสิ้นโลก) เป็นบทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์เครื่องลมที่ประกอบสองทำนองดนตรีที่ร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ได้แก่ ทำนองแห่งสงคราม และ ทำนองแห่งจิตวิญญาณบริสุทธิ์

ทำนองแห่งสงคราม ถูกแทนด้วยเสียงประสานกระด้าง (dissonance harmony) ที่ถูกสร้างขึ้นจากบันไดเสียงออกตาโทนิก (octatonic scales) เสียงลักษณะที่ฟังดูวุ่นวายจากกลุ่มเครื่องดนตรี และ ดนตรีคล้ายขบวนสนามของทหาร ภายในทำนองสงครามนี้มีเสียงของ Woodblock เพื่อแทนเสียงของนาฬิกาวันสิ้นโลก (doomsday clock) ที่เป็นสัญลักษณ์ที่สร้างขึ้นโดย Bulletin of the Atomic Scientists ในปี 1947 เพื่อเปรียบเปรยความใกล้ที่มนุษยชาติจะถูกทำลายด้วยเงื้อมมือตัวเอง นอกจากนี้ในทำนองยังประกอบด้วยทำนอง Dies Irae จากบทสวด Gregorian Chant และ กลุ่มจังหวะที่สร้างขึ้นจากรหัสมอร์สของ SOS (สามจุด / สามขีด / สามจุด  . . . _ _ _ . . . ) เพื่อแทนถึงเสียงสัญญาณแจ้งเหตุร้ายของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแห่งสงคราม

ทำนองแห่งจิตวิญญาณบริสุทธิ์ ถูกแทนด้วยทำนองเรียบง่ายที่มีพื้นเพจากทำนองเพลง Ring Around the Rosie ซึ่งเป็นทำนองเพลงเด็ก ทำนองนี้ประกอบขึ้นด้วยขั้นคู่สาม และ ได้ถูกใช้ตลอดทั้งบทเพลงนี้ ควบคู่กับดนตรีประกอบ (accompaniment) ที่ร่าเริง สนุกสนาน เพื่อแทนภาพรอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะของเหล่าเด็กๆ และ ผู้คนทั้งหลาย

ภายหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้น ข้าพเจ้าได้เริ่มร่างบทเพลงนี้ขึ้นในช่วงกลางปี 2022 และ ประพันธ์บทเพลงทั้งหมดเสร็จสิ้นในปลายปี 2022 โดยภายในบทเพลงมีภาพบรรยายดังนี้:

บทเพลงเริ่มต้นจากภาพแห่งสงครามที่เต็มไปด้วยการสู้รบ ต่อสู้ และตัดภาพไปที่บรรยากาศที่สงบ มีทำนองที่เรียบง่าย เพื่อนำเสนอทำนองแห่งจิตวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อทำนองได้ดำเนินไป ดนตรีก็มีบรรยากาศที่รื่นเริงมากขึ้น ก่อนจะค่อยๆ มีบางส่วนจากทำนองสงครามสอดแทรก และ ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง นำเข้าสู่ช่วงทำนองสงครามที่แท้จริง ภายหลังจากทำนองสงคราม ทำนองแห่งจิตวิญญาณบริสุทธิ์ได้กลับมาอีกครั้งแต่กลับมีความแจ่มใสที่น้อยลง พร้อมทั้งบรรยากาศที่หม่นหมอง ก่อนจะค่อยๆ สดใสขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนแห่งภาพความหวังเพื่ออนาคตที่สดใส

บทเพลงจบลงด้วยดนตรีที่ยิ่งใหญ่ก่อนจะถูกตัดเข้าทำนองสงครามอย่างกระทันหัน จุดนี้เองคือข้อความใจความสำคัญของบทเพลงนี้: เพื่อเป็นข้อความขอให้หยุดยั้งเหตุการณ์ความไม่สงบต่างๆ ความวุ่นวาย สงครามทั้งหลายก่อนที่จะไม่เหลือแม้แต่โลกนี้ให้คนรุ่นหลังต่อไป สมดั่งชื่อบทเพลงนี้ว่า The End of the World (วันสิ้นโลก) กระนั้นแล้วถึงแม้ว่าเหตุการณ์อาจจะดูมืดมน และ สิ้นหวังอย่างไร … ความหวังก็จะยังคงมีอยู่เสมอ … บทเพลงนี้จึงจบลงด้วยการกลับมาของทำนองแห่งจิตวิญญาณบริสุทธิ์อีกครั้ง

ข้าพเจ้าขออุทิศบทเพลงนี้แต่ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ทุกดวงที่ตกเป็นเหยื่อแก่ความรุนแรงที่ไม่อาจจินตนาการได้

ขอสันติภาพจงบังเกิดขึ้นแก่โลกใบนี้